วันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาตู้เย็นเก่ากินไฟมากจนเกินไปกับบทความ ตู้เย็นเก่ากินไฟเยอะ ไม่ต้องซื้ อใหม่ แก้ได้ด้วย 2 วิ ธีนี้ ทำเองได้ ไปดูกันว่าจะต้องทำอย่ างไรบ้าง เพื่อให้คุณนั้นประหยัดค่าไฟในทุกๆ เดือน
ตู้เย็นเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกบ้าน หากเป็นตู้เย็นที่ผลิตมาในช่วงปีหลังๆ จะมีการติดป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5 อยู่เสมอ แต่ถ้าหากเป็นตู้เย็นที่ใช้งานไปเป็นระยะเวลานาน หรือแม้แต่ตู้เย็นเก่า อาจทำให้ตู้เย็นกล า ยเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเกินกว่าปกติ

และยังอาจส่ งผลให้เกิดอันตรายอื่นๆ ต ามมาด้วย หรือแม้แต่ถ้าหากใช้งานผิดวิธี ก็อาจทำให้เป็นสาเหตุที่ทำให้กินไฟเพิ่มขึ้น เช่น ไม่ละล า ยน้ำแข็งที่ช่องฟรีซ ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักกว่าเดิม หรือแม้แต่การวางตู้เย็นไม่จุด อาจวางใกลักับบริเวณที่มีความร้อน การเปิดปิดตู้เย็นบ่อยๆ ก็จะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเช่นกัน วิธีแก้ให้ตู้เย็นทำงานปกติ สามารถทำได้เอง มีดังนี้
ให้ยกขาหน้าของตู้เย็นสูงกว่าด้านหลังเล็กน้อย สามารถใช้วัสดุอย่ า ง ย า งหรือแผ่นไม้รองขาด้านล่างเพื่อให้ประตูตู้เย็นโน้มปิดได้สนิท ช่วยให้ไอความเย็นของตู้เย็นไม่หลุดลอ ดออ กมาด้วย
2 ขอบย า งของตู้เย็น
เป็นสิ่งที่หากเมื่อถอ ดออ กมาล้างทำความสะอาดเรียบร้อย ให้ลองนำมาแช่น้ำอุ่นไว้ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้ขอบย า งข ย า ยตัว เมื่อเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง นำกลับไปประกอบต ามเดิมจะช่วยลดรอยรั่วในตู้เย็นได้เป็นอ ย่ า งดี
ทั้งนี้วิธีตรวจสอบตู้เย็นที่บ้าน ว่ากินไฟมากกว่าปกติหรือไม่ ให้ลองใช้กระดาษ A4 เสียบเข้าบริเวณตรงประตูตู้เย็นเพียงครึ่งเดียวหนีบไว้แล้วปิดประตูตู้เย็น แล้วลองดึงกระดาษดู หากดึงกระดาษได้ย า ก หรือ ดึงไม่ออ ก แสดงว่าตู้เย็นยังคงสภาพการใช้งานที่ดี เพราะขอบย า งตู้เย็นไม่เสื่อมอายุการใช้งาน แต่ถ้าหากดึงออ กได้อ ย่ า งง่ายดายก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า ตู้เย็นอาจอยู่ในสภาพการทำงานที่ไม่สมบูรณ์แล้วนั่นเอง
ที่มา krustory