วันที่ 26 ธ.ค.2565 ว่าที่ร.ต.ภาสกร พิมที อายุ 24 สังกัด กรม ศสร.สอ.รฝ. พร้อมด้วยคุณแม่ แก้วมะนี พิมที อายุ 46 ปี และนายศุกลภัทร พิมที อายุ 15 ปี น้องชายคนเล็ก ภรรยาและบุตรชายของ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที เสี ยชีวิ ตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณเลื่อยศเป็น น.ต.อำนาจ พิมที กล่าวในโอกาสพิธีพระราชทานเพ ลิ งศ พคุณพ่อว่า

ผมเป็นหนึ่งในครอบครัวที่สู ญเสี ย มีความรู้สึกว่าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่อีกใจหนึ่งก็มีความรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่พ่อได้รับเกียรติอย่างสูงสุดของชายชาติทหาร ขอบคุณหลายๆ หน่วยงาน ขอบคุณสำนักพระราชวังที่ให้เกียรติและจัดงานให้พ่ออย่างสมเกียรติในฐานะทหารคนหนึ่ง คิดว่าคุณพ่อผมต้องภูมิใจเป็นอย่างมากและครอบครัวของผมก็มีความภาคภูมิใจ สำหรับกองทัพเรือขอขอบคุณครับที่ให้คำมั่นว่าจะไม่ทิ้งครอบครัวของผู้สู ญเสี ยทุกท่าน ต้องขอขอบคุณจากใจ
ด้านคุณแม่ นางแก้วมะนี อายุ 46 ปี ภรรยาน.ต.อำนาจ กล่าวถึงความรู้สึกและสิ่งบอกเหตุที่เกิดขึ้นว่า เขาอยากจะไปปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้เป็นพิเศษ ให้พาไปซื้อของใหม่เช่น หัวเข็มขัดใหม่ แถบแพรใหม่ และเสื้อจิตอาสา เตรียมใหม่หมดเลย แบบเนี๊ยบมาก และบอกว่าจะกลับมาในวันที่ 20 ธ.ค. และเขาก็กลับมาในวันที่ 20 ธ.ค.นี้จริงๆ ในเรื่องของสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดขึ้นอะไรนั้น
ถ้าเป็นชาวพุทธก็อาจจะคิดว่าเป็นความฝัน พราะได้ฝันว่าตัวเองไปงานขาวดำในวันที่ 15 ธ.ค. และเจอเพื่อนร่วมรุ่นของเขาซึ่งเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นเดียวกับเขาเยอะมาก และมีบรรดาแม่บ้านรุ่น 36 ที่ไปขึ้นเขาด้วยกันเมื่อมองลงมาเห็นน้ำทะเลสวย จึงได้ลงมาเพื่อที่จะขึ้นเรือเล็กๆมองลงไปในน้ำเห็นตัวเลขอยู่ในน้ำ 422 211 แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คุณแม่ก็ไปตีเป็นหวย แต่เพิ่งมารู้ว่าเรือสุโขทัยนั้น หมายเลข 442 อันนั้นก็เป็นหมายเหตุหนึ่ง
” คุณแม่ฝันเห็นก่อนที่คุณพ่อมาขอไปราชการในวันที่ 16 ธ.ค. และให้ไปส่งคุณพ่อขึ้นเรือ แล้วในวันที่ 17 ก็ได้ไปส่งคุณพ่อขึ้นรถเพื่อที่จะไปลงเรือ ขณะเกิดเห ตุ คุณพ่อได้ฝากข้อความไว้ในไลน์และพยายามติดต่อกัน จนถึงเวลา 22.00 น. ได้คุยกันประมาณ 4 นาที เพื่อรอเรือมาช่วย
” ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุพ่อเพียงส่งไลน์มาเฉยๆ และคิดว่าคุณพ่อน่าจะต้องกลับมาได้เพราะเราเชื่อมั่นว่า กองทัพเรือ มีเรือที่จะขนย้ายออกมาได้ เรามีความเชื่อมั่นถึงแม้ว่าสภาวะอากาศที่มีคลื่นลมรุนแรงก็ตาม “